แพร์ แมร์เทิสอัคเคอร์ (
เยอรมัน: Per Mertesacker, ออกเสียง: [ˈpeːɐ̯ ˈmɛʁtəsʔakɐ]; เกิดเมื่อวันที่
29 กันยายน ค.ศ. 1984) เป็น
นักฟุตบอลชาวเยอรมัน เคยลงเล่นให้กับ
อาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเคยติด
ทีมชาติเยอรมนีด้วย
[2] โดยแมร์เทิสอัคเคอร์นั้นเคยเป็นผู้เล่นชุดเยาวชนของ
ฮันโนเฟอร์ 96 ในบุนเดิสลีกา ก่อนจะได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ใน
เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2003หลังจบ
ฟุตบอลโลก 2014 ที่เยอรมนีได้แชมป์โลกสมัยที่ 4 แมร์เทิสอัคเคอร์ได้ประกาศยุติการเล่นให้กับทีมชาติไปด้วยวัย 29 ปี
[3] โดยจะไปทุ่มเทให้กับสโมสรอย่างเต็มที่ พร้อมกับรับตำแหน่งรองกัปตันทีม
[4]ซึ่งใน
ฤดูกาล 2014–15 นั้น แมร์เทิสอัคเคอร์ ทำหน้าที่กัปตันทีมแทบจะทุกนัดที่ลงแข่ง เนื่องจาก
มีเกล อาร์เตตา กัปตันทีมตัวจริงของอาร์เซนอลได้รับบาดเจ็บเกือบทั้งฤดูกาล ใน
เอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศ แมร์เทิสอัคเคอร์ เป็นผู้โหม่งทำประตูจากลูกเตะมุมได้ในนาทีที่ 62 นับเป็นประตูที่ 3 เมื่อจบการแข่งขัน อาร์เซนอลเป็นฝ่ายเอาชนะ
แอสตันวิลลา ไปได้มากถึง 4–0 ทำสถิติเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุด คือ 12 ครั้ง และเมื่อขึ้นรับถ้วยรางวัล แมร์เทิสอัคเคอร์ยังเป็นผู้รับถ้วยร่วมกับอาร์เตตาอีกด้วย
[5]ใน
ฤดูกาล 2016–17 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น
กัปตันทีมแทนที่อาร์เตตาที่ยุติการเล่นไป แต่ทว่าตัวของแมร์เทิสอัคเคอร์เองได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าไม่อาจลงเล่นได้ในช่วงต้นฤดูกาล
[6] และปรากฏว่าตลอดทั้งฤดูกาล แมร์เตซัคเกอร์ลงเล่นได้เพียงแค่ 31 นาทีเท่านั้น จนกระทั่งจบฤดูกาล ในนัด
ชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ 2017 กับ
เชลซี ซึ่งได้แชมป์
พรีเมียร์ลีกมาก่อนหน้านั้นไม่นาน เนื่องจากกองหลังตัวจริงทั้งหมดบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แมร์เตซัคเกอร์จึงต้องลงเล่นแทน และปรากฏว่าเล่นได้ดี สามารถสกัดลูกในจังหวะอันตราย ๆ ได้หลายครั้งจนได้รับคำชม ส่งให้อาร์เซนอลเอาชนะไปได้ในที่สุด และเป็นแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 13 นับว่าเป็นสโมสรที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุด จากนั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์แมร์เตซัคเกอร์ประกาศเลิกเล่นและขอผันตัวเองไปทำหน้าที่อย่างอื่น โดยเล่นให้กับอาร์เซนอลทุกรายการทั้งหมด 210 นัด ได้แชมป์
เอฟเอคัพทั้งหมด 3 สมัย
[7] ต่อมา อาร์เซนอลได้ประกาศให้แมร์เทิสอัคเคอร์เป็นผู้จัดการทีมเยาวชนของอาร์เซนอลตั้งแต่ฤดูกาล 2017–18 และตั้งใจจะเลิกเล่นหลังจบ
ฤดูกาลนี้[8]